หลังจากเปลี่ยนรูป profile และ รูปหน้าปกใน facebook ก็มี message เข้ามาถามว่า
‘ไปเที่ยวไหนอ่ะแกรรรรรรร’
แอร๊ยยยยย………………………………………..เข้าทาง!!

รีบตอบกลับไปทันทีว่า
‘เธอๆ….ฉันไปหลังคาโลกมา มีเรื่องจะมาเม้าท์’
5555555
เกริ่นนำกันก่อน หมวยไทยอย่างจขกท. ก็มีความฝันอย่างหนึ่งลึกๆในจิตใจว่าอยากไปเยือนดินแดนบ้านเกิดของอาเหล่ากง อาเหล่าม่าอันกว้างใหญ่ไพศาลสักครั้งหนึ่งในชีวิต อยากไปดูสิว่าพระราชวังปักกิ่งหรือพระราชวังฤดูร้อนที่อาเหล่ากง อาเหล่าม่าเคยอยู่นั้น ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง…ไรงี้

(หรา???) ร่วมกับอนุสนธิจากกระทู้นี้เมื่อ 3-4 ปีมาแล้ว ของน้อง 3 คน กลุ่มเน้ GoGraph!
http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11515163/E11515163.html
จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ป้าคนหนึ่ง อยากจะนั่งรถไฟไปหลังคาโลกบ้างเป็นอย่างมากกกกก แต่จะให้นั่งตั้งแต่หัวลำโพงแบบน้องๆ … ป้ารู้ดีว่าป้าไม่ไหว 5555 ป้าแก่แล้ว และเจ้านายคงไล่ออกแน่ เลยตัดตอนเส้นทางเหลือแค่
เซี่ยงไฮ้ – ทิเบต- ปักกิ่งค่ะ(ที่นั่งขาเดียวนั้นนอกจากเรื่องสุขภาพแล้วก็…..คือไม่มีงบสำหรับตั๋วเครื่องบินไปกลับจากลาซาน่ะจ้ะ งบพอแค่ขาเดียว 5555 )
จริงๆ รถไฟไปทิเบตมีหลายเส้นทางค่ะ จะจากปักกิ่ง,เซี่ยงไฮ้ หรือเฉิงตูก็ได้ แต่ จขกท.ไม่เคยไปเที่ยวจีนเลย แม้จะเคยไป Xian เมื่อปีที่แล้ว แต่ก็ไปทำงานด้วย เที่ยวด้วยนิดหน่อย ดังนั้นพอจะไปเที่ยวทั้งทีก็อยากไปเห็นอะไรๆที่เราอยากเห็นมานาน อยากเห็นตั้งแต่เด็ก เป็นไหมแบบดูหนังจีนแล้วอยากมาเดินเล่นในพระราชวังกู้กงดูสักครั้ง หรืออยากมามีโอกาสเดินชิลล์แถวเดอะบันด์เหมือนสี่เหวินเฉียงกะคุณหนูฝง (แอร๊ยยยยย จำได้ไหมคะ..เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ค่า..คนที่จำได้ต้องระดับนึงเลยนะคะ..อายุค่ะ อายุ …ต้องมากระดับนึงเลยฮร่ะ 5555

) ความจริง จขกท.อยากไปเหยียบอีกหลายที่เช่น ภูเขาหิมะแห่งมังกรหยกเอย หรือหุบเขาจางเจียเจี้ยแห่งอวาตาร์เอย แต่นั่นแหละเราคงไม่สามารถจะไปหมดภายในคราวเดียวกัน….แผ่นดินจีนกว้างใหญ่หมื่นลี้ ชีวิตนี้คงได้ไปอีกหลายครั้งล่ะนะ…
(….เสียงแม่ตะโกนมาแว่วๆว่า …อากงลื้อมาจากกวางตุ้งนะ!! ไม่ได้มาจากปักกิ่งหรือเซี่ยงไฮ้สักหน่อย

...เอาน่าแม่! มันก็เมืองจีนเหมืองๆกังหน่า ….)
ขอบอกเลย จขกท.ถ่ายรูปเยอะมว๊ากกกกก ถ่ายรูปเป็นพัน ….รูปสวยนับสิบ!!!! (เพลียกะป้า) เพราะงั้นอย่าว่าเลยนะคะถ้ารูปมันจะสวยขัดใจคนอ่านไปบ้าง เห็นใจด้วย จขกท.ถ่ายรูปเก่งมากกกค่ะ 55555
เริ่มต้นทริปจากภูเก็ต – เซี่ยงไฮ้ บินตรงโดยสายการบิน China Eastern Airline … 03.15-08.50 น.
ตอนรอขึ้นเครื่องทั้ง gate ฝั่ง international ของสนามบินภูเก็ต มีแต่คนจีนนนนนนนนนนนทั้งนั้น มีคนไทยกะฝรั่งไม่ถึง 10 คน (ไม่รวมเจ้าหน้าที่) เหมือนจะเป็นการบอกกลายๆว่า จากนี้ไป … ลื้อจะเจอพวกอั๊วๆๆ ให้มึนกันไปข้างนึง 5555 บอกเลย..ที่สนามบินนี่เด็กๆ ต้องมาเจอเองนี่ที่แผ่นดินใหญ่นี่ของจริง!! เพราะคนจีนว่าเที่ยวนอกประเทศเยอะแล้ว…แต่เที่ยวในประเทศเยอะกว่ามว๊ากกกกกก คนไทยควรเอาเป็นตัวเอย่างเลยทีเดียว
@เซี่ยงไฮ้ … Landing ที่สนามบินผู่ตง (Pu Dong) เป็นสนามบินที่ใหญ่เลย ค่ะ… ต่อจากนี้ไปเราจะเจอแต่อะไรที่ใหญ่ๆ ฮร่ะ ข้อคิดข้อนึงจากการเดินทางครั้งเน้!..
เล็กๆไม่…ใหญ่ๆจีนทำค่ะ รอดูกันต่อไป
เครื่องกำลังร่อนลง เซี่ยงไฮ้วันนี้ที่เต็มไปด้วยหมอก
Shanghai in a mist!
เรานั่งรถจากเครื่องเข้า gate อีกที
ภายในสนามบินค่ะ ใหญ่โตโอ่โถง ห้องน้ำสะอาดดีค่า
อ่า…เขาเรียงกระเป๋าได้ใจมาก ผู้โดยสารรับกระเป๋าไปได้เลยค่ะ น่ารักมาก ดูใส่ใจและเป็นระเบียบอีกด้วย … มาถึงก็ประทับใจล่ะ
‘เจ๊ๆ เราหลงแล้วล่ะ ไปทางโน้นตามผู้ชายเสื้อเขียวดีกว่า’ … คุณพี่เสื้อลายได้กล่าวไว้กับคุณพี่เสื้อส้ม
การเดินทางเข้าเมืองเซี่ยงไฮ้มีหลายทางค่ะ ไม่ว่าจะเป็น รถไฟพลังแม่เหล็ก Maglev(Magnetic levitation),รถไฟใต้ดิน,Airport shuttle bus,Taxi แต่ว่าจขกท.และเพื่อน (ยังกะบริษัททนายความ 555) อยากลองนั่งรถไฟพลังแม่เหล็กไฟฟ้าดูสักครั้งว่าของพี่จีนจะเจ๋งแค่ไหน เลยเดินไปตามป้าย Maglev โลดคร้า
หิวแล้ว!!!! แวะกินข้าวในสนามบิน เมนูหมูทอดราดซอสอะไรสักอย่าง กะผักและซุปคล้ายๆแกงส้มภาคกลางบ้านเรา พนักงานพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ภาษาจีนเราก็ยังไม่ฟื้นตัว ก็ใช้ภาษามือเลยจ้า 555 อย่ากลัว ถือคติไว้ว่า
ภาษากินเป็นภาษาสากลของโลก 5555 รสชาติโอเคเลยค่ะ … แต่ๆๆๆ จานใหญ่มว๊ากกกกก คนจีนเค้ากินกันเยอะจังคู้ณณณ
อะไรนะ..กินหมดไหมหรอ …..จะเหลือหรอยะ หร่อน!! ให้มันรู้ซะบ้าง จขกท.ไม่ยอมแพ้สาวจีนหรอกนะ!!!
(บอกแล้วว่าเล็กๆไม่ ใหญ่ๆพี่จีนทำ)
ซื้อตั๋ว Maglev ราคาตั๋ว 50 หยวนค่ะ แพงหน่อยแต่เร็วกว่าค่ะ ใช้เวลา 8 นาทีถึงสถานีปลายทางคือ Longyang station แล้วเราไปต่อ subway อีกทีค่ะ แต่ถ้าขึ้น subway มาตั้งแต่สนามบินเลยก็เวลาประมาณ 1 ชม.ค่ะ นานกว่าแต่ราคาก็ถูกกว่าเช่นกันค่ะ
เอะ!..นั่นมือหรือกีบ!!!
ก่อนเข้าไปขึ้น Maglev จะต้องผ่านที่ scan กระเป๋าเหมือนเวลาเราขึ้นเครื่องก่อนค่ะ
เข้ามาแล้วจะลงไปชานชาลาเลยไม่ได้นะคะถ้ายังไม่ถึงเวลา จนท.จะให้เราอยู่บริเวณนี้ก่อน พอใกล้ถึงเวลาเจ้าหน้าที่ถึงจะให้ลงไปชั้นล่างอีกทีค่ะ เพื่อไปขึ้น Maglev … เป็นระบบที่กันความวุ่นวายและสับสนดีค่ะ
โฉมหน้า Maglev ค่า… หล่อทีเดียวนะคะเนี้ย^^
ภายใน Maglev กว้างขวาง นั่งสบายดีค่ะ
บรื๋ออออออออ…..ช่วงที่รถเร่งความเร็วไปเรื่อยๆก่อนถึงความเร็วสูงสุดนี่ให้ความรู้สึกเหมือนตอนเล่นรถไฟเหาะเลยค่ะ เสียวๆดี แอบรู้สึกเหมือนรถลอยๆไม่ติดราง5555 ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 300 km/hr … วิ่งนิ่มมากค่ะ ฟินเว่อร์ มีโอกาสควรมาลองนะคะ เค้าบอกว่ายิ่งกว่าซินคันเซ็นของญี่ปุ่น วู้ๆ
วิวข้างทาง
มาถึงสถานีสุดท้ายคือ Long yang station เราก็ต้องลงรถไปต่อ subway อีกทีนึงค่ะ
ซื้อตั๋วก่อนค่ะ ซื้อง่ายมาก มีภาษาอังกฤษบอกก็กดตามที่เราต้องการ หยอดเงินลงไปก็ได้ตั๋วเลย ง๊าย ง่าย สะดวกค่ะ
ภายใน Subway มีประตูกั้นระหว่างชานชาลากับประตูรถไฟด้วย
มีจอบอกเวลารถมาถึงด้วยนะคะ...ถ้าเราอ่านภาษาจีนออกอ่ะนะ (อันนี้เดาหากผิดขออภัย ใครทราบเข้ามาช่วยแก้ได้เลยค่า)
รัฐเขาก็ทำอะไรหลายอย่างเพื่อความสะดวกและปลอดภัยของประชาชนจีนนะ แบบเห็นแล้วอยากให้บ้านเรามีบ้าง หลายๆอย่างเลย จะทยอยนำมาให้ดู อย่างประตูกั้นระหว่างชานชาลากับรถไฟนั่นไง เค้ามีลูกศรบอกที่ยืนรอเข้าด้วยนะจะอยู่ด้านข้างคล้ายๆบ้านเรา คือให้คนด้านในออกมาก่อนไรงี้ … แต่คนที่นี่ด้วยความมีมากอ่ะนะ จะให้มีระเบียบวินัยเปะๆก็ยังคงต้องใช้เวลา ดังนั้นไม่แปลกที่คนจีนจะเข้าไปยืนรอรถตรงหน้าประตูนี้เลยจ้า พอประตูรถไฟเปิดปุ๊ป .. แมร่ง ก็โคตรชุลมุนเลย ยิ่งเวลา rush hour นะ … อย่าให้พูด!
ภายในรถไฟฟ้าใต้ดิน สะอาด แอร์เย็น 5555
Subway ที่นี่ : ทั่วถึง ราคาถูก มาเร็ว มีไฟกระพริบบอก station ในรถ ไม่ต้องกลัวว่าถ้าฟังจีนไม่ออกจะลงเลยสถานี ดูที่ไฟได้เลยค่ะ แต่ๆๆๆ จขกท.เจ็บปวดทุกครั้งกับระบบ
‘Security’ของ subway ที่นี่ เพราะจะมีเครื่อง scan กระเป๋าแบบสนามบินทุกครั้งที่เข้า station …
Oh my god!!! ป้า backpack ใบโตมาจ้า ต้องถอดกระเป๋าลง แล้วเอากระเป๋าขึ้นแต่ละที …. ป้าปวดหลังอ่ะลูก!!!
เคยทำเนียนนะคะแบบเดินผ่านเครื่อง scan ไปเสียบบัตรเลย…อันนี้นิสัยไม่ดีนะคะ อย่าทำนะจ้ะ แต่จขกท.อยากรู้ว่าจะตรวจจริงป่าว…คือลองเลียนแบบพี่จีนคนหนึ่งที่เดินผ่านไปเลยไม่ยอมถอดกระเป๋า(แต่ตอนนั้นมันช่วง rush hour ล่ะนะ)555 ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ไม่ยอมจ้า นางเริ่ดตรงนี้ นางใช้ภาษามือสื่อสารจ้ะแม้ว่าพูดอังกฤษไม่ได้ .. ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ไทย คุยกันไม่รู้เรื่อง คนก็มาก อาจปล่อยผ่านไปแล้วก็ได้ ก็ต้องยอมเอากระเป๋าลง-ขื้น ต่อปายยยย
โผล่มาลงที่ East Nanjing station …. โอ้โห!! แม่เจ้าโว้ย!!! อลังการงานสร้าง นี่มันใจกลางความทันสมัยสุดหรูหราของเซี่ยงไฮ้เลยนะเนี่ย ตื่นเต้นๆ 555 ให้อารมณ์ประมาณถือชลอมมาจากบ้านนอกแล้วโผล่ออกมาเห็นพารากอนครั้งแรกประมาณนั้น
เดินต่อไปเพื่อไป Check in ที่พักก่อน … ระหว่างทางเห็นที่จอดรถจักรยาน … เริ่ดอ่า … มีอยู่เกือบทุกที่เลย บางที่เป็นที่จอดรถจักรยานอยู่ใต้ดินเลย ไม่ใช่แค่อำนวยความสะดวกให้ประชาชนแต่ยังส่งเสริมเรื่องสิ่งแวดล้อมอีกต่างหาก น่าประทับใจอยู่ไม่หยอก
แวะสำรวจ Seven ระหว่างทางก่อนถึงโรงแรม …. ไม่อดตายล่ะเรา! เย้ๆๆๆๆ
กรี๊ดดดดดดด คนที่นี่ข้ามถนนได้ฮิปเวอร์ จิเป็นลม!! ไฟจราจรสำหรับคนข้ามถนนนี่มีทุกที่เลยนะ !!! ย้ำว่าทุกที่เลย คือรัฐทำไว้ดีเลยนะ (จขกท.อยากให้เมืองไทยมีอย่างนี้เยอะๆบ้าง)
แต่คนจีนข้ามถนนกันได้อาร์ตมากกกกก จะข้ามแต่ลทีะหัวใจจะวายพอๆกะเมืองไทย
[CR] ...'เธอๆ ฉันไปหลังคาโลกมา มีเรื่องจะมาเม้าท์'...Ep.1 เริ่มต้น@Shanghai
‘ไปเที่ยวไหนอ่ะแกรรรรรรร’
แอร๊ยยยยย………………………………………..เข้าทาง!!
รีบตอบกลับไปทันทีว่า
‘เธอๆ….ฉันไปหลังคาโลกมา มีเรื่องจะมาเม้าท์’
เกริ่นนำกันก่อน หมวยไทยอย่างจขกท. ก็มีความฝันอย่างหนึ่งลึกๆในจิตใจว่าอยากไปเยือนดินแดนบ้านเกิดของอาเหล่ากง อาเหล่าม่าอันกว้างใหญ่ไพศาลสักครั้งหนึ่งในชีวิต อยากไปดูสิว่าพระราชวังปักกิ่งหรือพระราชวังฤดูร้อนที่อาเหล่ากง อาเหล่าม่าเคยอยู่นั้น ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง…ไรงี้
http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11515163/E11515163.html
จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ป้าคนหนึ่ง อยากจะนั่งรถไฟไปหลังคาโลกบ้างเป็นอย่างมากกกกก แต่จะให้นั่งตั้งแต่หัวลำโพงแบบน้องๆ … ป้ารู้ดีว่าป้าไม่ไหว 5555 ป้าแก่แล้ว และเจ้านายคงไล่ออกแน่ เลยตัดตอนเส้นทางเหลือแค่ เซี่ยงไฮ้ – ทิเบต- ปักกิ่งค่ะ(ที่นั่งขาเดียวนั้นนอกจากเรื่องสุขภาพแล้วก็…..คือไม่มีงบสำหรับตั๋วเครื่องบินไปกลับจากลาซาน่ะจ้ะ งบพอแค่ขาเดียว 5555 )
จริงๆ รถไฟไปทิเบตมีหลายเส้นทางค่ะ จะจากปักกิ่ง,เซี่ยงไฮ้ หรือเฉิงตูก็ได้ แต่ จขกท.ไม่เคยไปเที่ยวจีนเลย แม้จะเคยไป Xian เมื่อปีที่แล้ว แต่ก็ไปทำงานด้วย เที่ยวด้วยนิดหน่อย ดังนั้นพอจะไปเที่ยวทั้งทีก็อยากไปเห็นอะไรๆที่เราอยากเห็นมานาน อยากเห็นตั้งแต่เด็ก เป็นไหมแบบดูหนังจีนแล้วอยากมาเดินเล่นในพระราชวังกู้กงดูสักครั้ง หรืออยากมามีโอกาสเดินชิลล์แถวเดอะบันด์เหมือนสี่เหวินเฉียงกะคุณหนูฝง (แอร๊ยยยยย จำได้ไหมคะ..เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ค่า..คนที่จำได้ต้องระดับนึงเลยนะคะ..อายุค่ะ อายุ …ต้องมากระดับนึงเลยฮร่ะ 5555
(….เสียงแม่ตะโกนมาแว่วๆว่า …อากงลื้อมาจากกวางตุ้งนะ!! ไม่ได้มาจากปักกิ่งหรือเซี่ยงไฮ้สักหน่อย
ขอบอกเลย จขกท.ถ่ายรูปเยอะมว๊ากกกกก ถ่ายรูปเป็นพัน ….รูปสวยนับสิบ!!!! (เพลียกะป้า) เพราะงั้นอย่าว่าเลยนะคะถ้ารูปมันจะสวยขัดใจคนอ่านไปบ้าง เห็นใจด้วย จขกท.ถ่ายรูปเก่งมากกกค่ะ 55555
เริ่มต้นทริปจากภูเก็ต – เซี่ยงไฮ้ บินตรงโดยสายการบิน China Eastern Airline … 03.15-08.50 น.
ตอนรอขึ้นเครื่องทั้ง gate ฝั่ง international ของสนามบินภูเก็ต มีแต่คนจีนนนนนนนนนนนทั้งนั้น มีคนไทยกะฝรั่งไม่ถึง 10 คน (ไม่รวมเจ้าหน้าที่) เหมือนจะเป็นการบอกกลายๆว่า จากนี้ไป … ลื้อจะเจอพวกอั๊วๆๆ ให้มึนกันไปข้างนึง 5555 บอกเลย..ที่สนามบินนี่เด็กๆ ต้องมาเจอเองนี่ที่แผ่นดินใหญ่นี่ของจริง!! เพราะคนจีนว่าเที่ยวนอกประเทศเยอะแล้ว…แต่เที่ยวในประเทศเยอะกว่ามว๊ากกกกกก คนไทยควรเอาเป็นตัวเอย่างเลยทีเดียว
@เซี่ยงไฮ้ … Landing ที่สนามบินผู่ตง (Pu Dong) เป็นสนามบินที่ใหญ่เลย ค่ะ… ต่อจากนี้ไปเราจะเจอแต่อะไรที่ใหญ่ๆ ฮร่ะ ข้อคิดข้อนึงจากการเดินทางครั้งเน้!..เล็กๆไม่…ใหญ่ๆจีนทำค่ะ รอดูกันต่อไป
เครื่องกำลังร่อนลง เซี่ยงไฮ้วันนี้ที่เต็มไปด้วยหมอก Shanghai in a mist!
เรานั่งรถจากเครื่องเข้า gate อีกที
ภายในสนามบินค่ะ ใหญ่โตโอ่โถง ห้องน้ำสะอาดดีค่า
อ่า…เขาเรียงกระเป๋าได้ใจมาก ผู้โดยสารรับกระเป๋าไปได้เลยค่ะ น่ารักมาก ดูใส่ใจและเป็นระเบียบอีกด้วย … มาถึงก็ประทับใจล่ะ
‘เจ๊ๆ เราหลงแล้วล่ะ ไปทางโน้นตามผู้ชายเสื้อเขียวดีกว่า’ … คุณพี่เสื้อลายได้กล่าวไว้กับคุณพี่เสื้อส้ม
การเดินทางเข้าเมืองเซี่ยงไฮ้มีหลายทางค่ะ ไม่ว่าจะเป็น รถไฟพลังแม่เหล็ก Maglev(Magnetic levitation),รถไฟใต้ดิน,Airport shuttle bus,Taxi แต่ว่าจขกท.และเพื่อน (ยังกะบริษัททนายความ 555) อยากลองนั่งรถไฟพลังแม่เหล็กไฟฟ้าดูสักครั้งว่าของพี่จีนจะเจ๋งแค่ไหน เลยเดินไปตามป้าย Maglev โลดคร้า
หิวแล้ว!!!! แวะกินข้าวในสนามบิน เมนูหมูทอดราดซอสอะไรสักอย่าง กะผักและซุปคล้ายๆแกงส้มภาคกลางบ้านเรา พนักงานพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ภาษาจีนเราก็ยังไม่ฟื้นตัว ก็ใช้ภาษามือเลยจ้า 555 อย่ากลัว ถือคติไว้ว่า ภาษากินเป็นภาษาสากลของโลก 5555 รสชาติโอเคเลยค่ะ … แต่ๆๆๆ จานใหญ่มว๊ากกกกก คนจีนเค้ากินกันเยอะจังคู้ณณณ
อะไรนะ..กินหมดไหมหรอ …..จะเหลือหรอยะ หร่อน!! ให้มันรู้ซะบ้าง จขกท.ไม่ยอมแพ้สาวจีนหรอกนะ!!!
(บอกแล้วว่าเล็กๆไม่ ใหญ่ๆพี่จีนทำ)
ซื้อตั๋ว Maglev ราคาตั๋ว 50 หยวนค่ะ แพงหน่อยแต่เร็วกว่าค่ะ ใช้เวลา 8 นาทีถึงสถานีปลายทางคือ Longyang station แล้วเราไปต่อ subway อีกทีค่ะ แต่ถ้าขึ้น subway มาตั้งแต่สนามบินเลยก็เวลาประมาณ 1 ชม.ค่ะ นานกว่าแต่ราคาก็ถูกกว่าเช่นกันค่ะ
เอะ!..นั่นมือหรือกีบ!!!
ก่อนเข้าไปขึ้น Maglev จะต้องผ่านที่ scan กระเป๋าเหมือนเวลาเราขึ้นเครื่องก่อนค่ะ
เข้ามาแล้วจะลงไปชานชาลาเลยไม่ได้นะคะถ้ายังไม่ถึงเวลา จนท.จะให้เราอยู่บริเวณนี้ก่อน พอใกล้ถึงเวลาเจ้าหน้าที่ถึงจะให้ลงไปชั้นล่างอีกทีค่ะ เพื่อไปขึ้น Maglev … เป็นระบบที่กันความวุ่นวายและสับสนดีค่ะ
โฉมหน้า Maglev ค่า… หล่อทีเดียวนะคะเนี้ย^^
ภายใน Maglev กว้างขวาง นั่งสบายดีค่ะ
บรื๋ออออออออ…..ช่วงที่รถเร่งความเร็วไปเรื่อยๆก่อนถึงความเร็วสูงสุดนี่ให้ความรู้สึกเหมือนตอนเล่นรถไฟเหาะเลยค่ะ เสียวๆดี แอบรู้สึกเหมือนรถลอยๆไม่ติดราง5555 ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 300 km/hr … วิ่งนิ่มมากค่ะ ฟินเว่อร์ มีโอกาสควรมาลองนะคะ เค้าบอกว่ายิ่งกว่าซินคันเซ็นของญี่ปุ่น วู้ๆ
วิวข้างทาง
มาถึงสถานีสุดท้ายคือ Long yang station เราก็ต้องลงรถไปต่อ subway อีกทีนึงค่ะ
ซื้อตั๋วก่อนค่ะ ซื้อง่ายมาก มีภาษาอังกฤษบอกก็กดตามที่เราต้องการ หยอดเงินลงไปก็ได้ตั๋วเลย ง๊าย ง่าย สะดวกค่ะ
ภายใน Subway มีประตูกั้นระหว่างชานชาลากับประตูรถไฟด้วย
มีจอบอกเวลารถมาถึงด้วยนะคะ...ถ้าเราอ่านภาษาจีนออกอ่ะนะ (อันนี้เดาหากผิดขออภัย ใครทราบเข้ามาช่วยแก้ได้เลยค่า)
รัฐเขาก็ทำอะไรหลายอย่างเพื่อความสะดวกและปลอดภัยของประชาชนจีนนะ แบบเห็นแล้วอยากให้บ้านเรามีบ้าง หลายๆอย่างเลย จะทยอยนำมาให้ดู อย่างประตูกั้นระหว่างชานชาลากับรถไฟนั่นไง เค้ามีลูกศรบอกที่ยืนรอเข้าด้วยนะจะอยู่ด้านข้างคล้ายๆบ้านเรา คือให้คนด้านในออกมาก่อนไรงี้ … แต่คนที่นี่ด้วยความมีมากอ่ะนะ จะให้มีระเบียบวินัยเปะๆก็ยังคงต้องใช้เวลา ดังนั้นไม่แปลกที่คนจีนจะเข้าไปยืนรอรถตรงหน้าประตูนี้เลยจ้า พอประตูรถไฟเปิดปุ๊ป .. แมร่ง ก็โคตรชุลมุนเลย ยิ่งเวลา rush hour นะ … อย่าให้พูด!
ภายในรถไฟฟ้าใต้ดิน สะอาด แอร์เย็น 5555
Subway ที่นี่ : ทั่วถึง ราคาถูก มาเร็ว มีไฟกระพริบบอก station ในรถ ไม่ต้องกลัวว่าถ้าฟังจีนไม่ออกจะลงเลยสถานี ดูที่ไฟได้เลยค่ะ แต่ๆๆๆ จขกท.เจ็บปวดทุกครั้งกับระบบ ‘Security’ของ subway ที่นี่ เพราะจะมีเครื่อง scan กระเป๋าแบบสนามบินทุกครั้งที่เข้า station … Oh my god!!! ป้า backpack ใบโตมาจ้า ต้องถอดกระเป๋าลง แล้วเอากระเป๋าขึ้นแต่ละที …. ป้าปวดหลังอ่ะลูก!!!
เคยทำเนียนนะคะแบบเดินผ่านเครื่อง scan ไปเสียบบัตรเลย…อันนี้นิสัยไม่ดีนะคะ อย่าทำนะจ้ะ แต่จขกท.อยากรู้ว่าจะตรวจจริงป่าว…คือลองเลียนแบบพี่จีนคนหนึ่งที่เดินผ่านไปเลยไม่ยอมถอดกระเป๋า(แต่ตอนนั้นมันช่วง rush hour ล่ะนะ)555 ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ไม่ยอมจ้า นางเริ่ดตรงนี้ นางใช้ภาษามือสื่อสารจ้ะแม้ว่าพูดอังกฤษไม่ได้ .. ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ไทย คุยกันไม่รู้เรื่อง คนก็มาก อาจปล่อยผ่านไปแล้วก็ได้ ก็ต้องยอมเอากระเป๋าลง-ขื้น ต่อปายยยย
โผล่มาลงที่ East Nanjing station …. โอ้โห!! แม่เจ้าโว้ย!!! อลังการงานสร้าง นี่มันใจกลางความทันสมัยสุดหรูหราของเซี่ยงไฮ้เลยนะเนี่ย ตื่นเต้นๆ 555 ให้อารมณ์ประมาณถือชลอมมาจากบ้านนอกแล้วโผล่ออกมาเห็นพารากอนครั้งแรกประมาณนั้น
เดินต่อไปเพื่อไป Check in ที่พักก่อน … ระหว่างทางเห็นที่จอดรถจักรยาน … เริ่ดอ่า … มีอยู่เกือบทุกที่เลย บางที่เป็นที่จอดรถจักรยานอยู่ใต้ดินเลย ไม่ใช่แค่อำนวยความสะดวกให้ประชาชนแต่ยังส่งเสริมเรื่องสิ่งแวดล้อมอีกต่างหาก น่าประทับใจอยู่ไม่หยอก
แวะสำรวจ Seven ระหว่างทางก่อนถึงโรงแรม …. ไม่อดตายล่ะเรา! เย้ๆๆๆๆ
กรี๊ดดดดดดด คนที่นี่ข้ามถนนได้ฮิปเวอร์ จิเป็นลม!! ไฟจราจรสำหรับคนข้ามถนนนี่มีทุกที่เลยนะ !!! ย้ำว่าทุกที่เลย คือรัฐทำไว้ดีเลยนะ (จขกท.อยากให้เมืองไทยมีอย่างนี้เยอะๆบ้าง) แต่คนจีนข้ามถนนกันได้อาร์ตมากกกกก จะข้ามแต่ลทีะหัวใจจะวายพอๆกะเมืองไทย